
ขนมมันเชื่อม
ขนมมันเชื่อม ของหวานแสนอร่อย เมนูเชื่อม ทานกับน้ำกะทิ วิธีการทำมันสำปะหลังเชื่อม สามารถทำรับประทานเองได้ วิธีการทำทำยังไง ขนมไทยโบราณ สูตรขนมหวานไทย วิธีการทำมันเชื่อม สูตรมันเชื่อม ความอร่อยของมันเชื่อม
…

สูตรขนมไทย ทองหยอด ขนมหวานมงคลที่นิยม
ทองหยอด ขนมหวานจากไข่ เมนูเชื่อม วิธีทำทองหยอด ง่ายๆสามารถทำรับประทานเองได้ นิยมใช้ในงานมงคลต่างๆเทคนิคการทำของหวานมีอะไรบ้าง ทำยังไงให้อร่อย ขนมไทยโบราณ ได้รับอิธิพลจากโปตุเกส ขนมไทย
ส่วนประกอบสำหรับทำทองหยอด
- ไข่แดงของไข่เป็ด 20 ฟอง แยกเอาเฉพาะไข่แดง
- น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
- น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วยตวง
- แป้งข้าวเจ้า 10 ถ้วย
วิธีการทำทองหยอด
- จัดเตรียมน้ำลอยดอกมะลิ โดย นำน้ำสะอาดแช่ดอกมะลิ ก่อน หนึ่งคืน โดยเทคนิคของการทำน้ำลอยดอกมะลิ อยู่ที่ จำเป็นต้องเด็ดดอกมะลิกลางคืน จะให้น้ำกลิ่นหอมหวนดอกมะลิ
- ต่อจากนั้น ทำแป้งสำหรับหยอดขนม โดยนำไข่แดงตีกระทั่งไข่ขึ้นฟู แล้วให้ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป ตีแป้งกับไข่ต่อให้เหมาะนำมาพักเอาไว้ก่อน รอน้ำเชื่อมก่อน
- ทำน้ำเชื่อม โดยการใช้ น้ำลอยดอกมะลิที่ทำเอาไว้แล้ว มากรองให้สะอาด ใส้น้ำตาลทรายลงไปเคี้ยวให้หวาน เป็นน้ำเชื่อม เคี้ยวด้วยไฟอ่อนๆเมื่อได้ที่จะกระทำการหยอดไข่
- กระทำการหยอดแป้ง โดย เบาๆหยอดแป้งให้เป้นลักษณะของหยดน้ำ ต้มไปเรื่อยไข่จะลอยขึ้นมา แปลว่าได้ที่ ก้ให้นำเม็ดทองคำหยอขึ้นมา เท่านี้ก็จะได้ ขนมไทยโบราณ แสนจะง่าย
เทคนิควิธีการทำขนมทองหยอด
- วิธีการทำน้ำลอยดอกมะลิ ให้เลือกใช้น้ำสะอาด ความสำคัยอยู่ที่ ดอกมะลิที่เอามาลอยน้ำ ให้เลือกใช้ดอกมะลิใหม่ๆเด้ดกลางคืน เพราะว่าดอกมะลิจะให้กลิ่นหอมเวลากลางคืน
- สำหรับหากว่าไม่มีน้ำลอยดอกมะลิ ให้ใช้ใบเตยต้มน้ำแล้วก็น้ำตาลแทน จะได้น้ำเชื่อมกลิ่นใบเตย
- ไข่สำหรับเอามาทำขนม จะต้องเป็นไข่เป็ด เลือกเฉพาะไข่แดง ความอร่อยของขนมอยู่ที่วิธีการตีไข่แดง จำต้องตีไข่แดงให้ขึ้นฟู มีฟองอากาศอยู่ในไข่ก็เลยจะได้ขนมที่ฟูเนื้อเนียน
- แป้งข้าวจ้าว ถ้าหากสามารถใช้ข้าวสารโม้แป้งแบบใหม่ๆได้จะเหมาะสมที่สุด เนื่องด้วยจะได้แป้งเนื้อเนียน แต่ว่าถ้าไม่อาจจะหาได้ ก็ให้ใช้แป้งข้าวจ้าว แต่ว่าเมื่อเอามาผสมกับไข่แดงแล้ว ให้พักไว้สัก 1 ชั่วโมง เพื่อแป้งละลายรวมทั้งเซ็ตตัว
…

ขนมครก ขนมไทยโบราณ เมนูกะทิ วิธีการทำขนมครก ง่ายๆสามารถทำรับประทานเองที่บ้านได้ เป็นขนมทอดบนกระทะหลุม เทคนิคความอร่อยของขนมไทย จำพวกนี้ค เป็น แป้งรวมทั้งกะทิ ที่แป้งจำต้องเหนียวนุ่น ส่วนกะทิได้รสที่กลมกล่อม พอดิบพอดีไม่หวานเกินไป
ส่วนประกอบสำหรับทำแป้ง ขนมครก
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
- น้ำกะทิ 1 ถ้วยตวง
- น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง
- น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
ส่วนประกอบสำหรับทำน้ำกะทิขนมครก
- หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
- เม็ดข้าวโพด , ใบต้นหอม , ฟักทอง ( สำหรับโรยหน้าขนมครก )
- น้ำมันพืช
วิธีการทำขนมครก
- เริ่มผสมแป้ง โดยจัดแจงภาชนะสำหรับผสมแป้ง ใส่น้ำปูนใสแล้วก็กะทิลงไป และก็ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำสะอาด และก็ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนประกอบทั้งปวงละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ทิ้งเอาไว้ 30 นาทีให้แป้งดูดน้ำให้อิ่มตัวเต็มกำลัง
- เริ่มผสมกะทิ โดยจัดแจงภาชนะ ผสมหัวกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น และก็ แป้งข้าวเจ้า ผสมให้ส่วนประกอบละลายกลมกลืน ทิ้งไว้ 30 นาที
- จัดเตรียมกระทะหลุมสำหรับทอดขนมครกให้ใช้ผ้าชุบน้ำมัน เช็ดหลุมกระทะ เพื่อเวลาเทกะทิลงไปกะทิจะไม่ติดกระทะ สามารถแกะขนมออกง่ายดายมากยิ่งขึ้น
- เมื่อกระทะหลุมเริ่มร้อน ให้เทน้ำแป้งลงไปก่อน ให้แป้งเต็มขอบหลุม เพื่อแป้งกรอบเป็นทรงขนมครก ต่อจากนั้นปิดฝาให้แป้งขนมเซ็ตตัวก่อน ใช้เวลาราว 15 นาที
- เมื่อแป้งเซ็ตตัวพอดีราว 50% แล้ว ให้เพิ่มเติมน้ำกะทิลงไปให้เต็มหลุม และก็ปิดฝาอบถึงแม้ว่าจะขนมครกเต็มหลุมแล้วก็เป็นชิ้น
- เมื่อกะทิเริ่มเซ็ตตัว ให้ใส่ท๊อปปิ้งลงไปได้ ตามที่ใจต้องการ เมื่อท๊อปปิ้งสุกเต็มที่ ก็แกะขนมครก และก็ วางประกบกันให้มีความสวยงาม
เทคนิควิธีการทำขนมครก
- กะทิสำหรับทำของหวาน ให้ใช้กะทิคั้นสด ความใหม่ของกะทิจะให้ความหอมอร่อยแบบธรรมชาติ
- แป้งข้าวเจ้า จะช่วยทำให้ขนมสามารถจับกุมตัวเป็นชิ้นได้ แม้กระนั้นจะต้องใส่แป้งไม่เยอะเกินไปก็เลยจะให้ความอ่อนนุ่มของขนม
- ไฟที่ใช้ทอดขนมครก ให้เลือกใช้ไฟอ่อนๆแล้วก็ จะต้องรู้เรื่องร้อนที่ทั่วแล้วก็เสมอกันทั้งยังกระทะหลุม
- ท๊อปปิ้ง สามารถเลือกใช้ตามที่ใจต้องการ เพื่อเครื่องสุกอรอ่ย สามารถทำให้ท๊อปปิ้งสุกก่อนก็สามารถทำเป็น
- สำหรับเพื่อการผสมแป้งรวมทั้งกะทิ จะต้องกรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อของหวานสะอาดไม่มีเศษสกปรกติดมาด้วย
- การผสมแป้ง สามารถใส่สีผสมอาหารกางธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น น้ำใบเตย หรือ น้ำอัญชัน เพื่อเพิ่มสีสันให้ขนมครกได้
- น้ำปูนใส เป็นส่วนประกอบที่ทำให้แป้งกรอบเวลานำไปทอด ถ้าไม่ใส่น้ำปูนใสแป้งจะนุ่มไม่อร่อย จำต้องให้กรอบนอกนุ่มใน หวานกะทิ ก็เลยได้ขนมที่อร่อย
- น้ำตาลที่ใช้เพื่อสำหรับการผสมขนม ให้เลือกใช้น้ำตาลปี๊บ ความหวานของน้ำตาลปี๊บ เหมาะกับทำขนมไทยโบราณที่สุด
แหล่งที่มา.. https://nlovecooking.com/
…

ล่าเตียง หรือ หรุ่ม ขนมไทยโบราณ เมนูไข่ วิธีการทำล่าเตียง ไม่ยากทำรับประทานเองได้ ไข่ทำของหวานอะไรได้บ้าง อาหารชาววัง รสอร่อย เป็น ของหวานแบบง่ายๆหรุ่ม เมนูกุ้ง
ส่วนประกอบสำหรับ ล่าเตียง
- ไข่เป็ด 4 ฟอง
- เนื้อกุ้ง สับละเอียด 1 ถ้วย
- หอมแดง สับหยาบ 2 ช้อนโต้ะ
- ถั่วลิสง คั่วบุบ 2 ช้อนโต้ะ
- ราก ผักชีหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม หั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าแดง ซอยเป็นเส้นรวมทั้ง ใบผักชี สำหรับตกแต่ง
วิธีการทำล่าเตียง
- โขลกรากผักชี กระเทียม และก็ พริกไทย เข้าด้วยกันอย่างละเอียด แล้วหลังจากนั้นนำไปผัดกับน้ำมันด้วยไฟกลางจนกระทั่งหอม
- ใส่ กุ้ง ลงผัดเพียงพอสุก และก็ตามด้วยหอมเล็กแต่งรสด้วย น้ำตาลปี๊บ แล้วก็ น้ำปลา ใส่ ถั่วลิสง ลงผัดเพียงพอเข้ากัน ตักขึ้นพักไว้
- ทาน้ำมันบางๆบนกระทะตูดแบน เอาขึ้นตั้งไฟกลางให้ร้อน แล้วตอกไข่ใส่ถ้วยชาม ตีให้เหมาะ
- กางนิ้วออกแล้วจุ่มลงในไข่ โรยไข่เป็นสายบางๆลงบนกระทะให้เป็นตารางรอคอยจนถึงสุก ใช้ตะหลิวเบาๆลอกไข่ขึ้นวางบนจานก้นแบน พักไว้ ( ทำแบบนี้จนถึงหมด )
- ตักส่วนประกอบของไส้วางลงตรงกลางแผ่นไข่แล้วพับเป็นทรงกรวยหรือสี่เหลี่ยมตามชอบ
- จัดใส่จานเสิร์ฟ ตกแต่งด้วย ผักชี และก็ พริกชี้ฟ้า ให้มีความสวยสดงดงาม ขนมไทยโบราณ เมนูง่ายๆ
เทคนิควิธีการทำล่าเตียง
- เนื้อกุ้ง ให้เลือกกุ้งที่สดใหม่ โดยนำกุ้งมาสับให้ละเอียด
- น้ำตาลสำหรับเอามาทำ ไส้ล่าเตียง นั้น ควรเป็น น้ำตาลปีบ ความหวานรวมทั้ง ความเหนียวของน้ำตาลปีบ เหมาะแก่การนำมาทำไส้ของหวาน
- วิธีการทำไส้ลาเตียงนั้น ให้ให้ผัด รากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้หอมก่อน แล้วหลังจากนั้นใส่เนื้อกุ้งลงไปผัดให้สุก หลังจากนั้นแล้วก็ค่อยใส่น้ำตาล รวมทั้ง ส่วนประกอบอื่นๆลงไปผัด ให้ส่วนประกอบเหนียว รวมทั้งจำเป็นต้องกักให้ไส้เย็นก่อน แล้วก็ค่อยเอามาทำกับข้าว
- ไข่ สำหรับเอามาผสมแป้ง นั้น ควรจะเป็น ไข่เป็ด ด้วยเหตุว่าไข่เป็ด สี แล้วก็ น้ำมากมาย เหมาะสำหรับการนำมาทำขนมไข่
แหล่งที่มา.. mobi-expo.com
…

แกงบวดฟักทอง เป็น ขนมไทยโบราณ จำพวกของหวานกะทิ โดยมีฟักทอง เป็นวัตถุดิบหลัก วิธีการทำแกงบวดฟักทอง ง่ายๆสามารถทำรับประทานเองที่บ้านได้ เมนูฟักทอง เมนูกะทิ อร่อยๆฟักทองทำอะไรกินได้บ้าง มีฟักทองทำอะไรรับประทานดี
ส่วนประกอบสำหรับทำกล้วยบวดฟักทอง
- ฟักทอง 1 จาน ปลอกเปลือกแล้วก็หั่นเป็นชิ้นพอดิบพอดีคำ
- หางกะทิ 1 ถ้วย
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- เม็ดสาคู 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 5 ช้อนโต้ะ
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต้ะ
- เกลือ 1 ช้อนโต้ะ
- ใบเตย 3 ใบ
วิธีการทำแกงบวดฟักทอง
- นำเม็ดสาคูไปแช่น้ำ ให้สาคูอิ่มน้ำแล้วนำเม็ดสาคูลงไปต้ม ให้สุกก่อน และก็ เอามาแช่น้ำเย็นพักเอาไว้ก่อน
- จัดเตรียมน้ำกะทิ โดยนำ หัวกะทิ ใบเตย รวมทั้ง หางกะทิ ลงไปต้ม ให้ร้อน
- แล้ว แต่งรสด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย รวมทั้ง เกลือ ลงไป ปิดไฟ รวมทั้ง ปลดปล่อยให้น้ำตาลละลาย ต่อจากนั้นพักเอาไว้ก่อน
- ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด แล้วหลังจากนั้นนำฟักทองลงไปต้ม ต้มให้ฟักทองสุกถึงที่เหมาะ ก็เอามาพักให้เย็น
- นำน้ำกระทิปรุงรส อุ่นให้ร้อน ใส่ สาคูต้ม และก็ ฟักทอง ลงไป ต้มให้ร้อน โดยไม่ต้องคลุกลี้ลุกลน เมื่อแกงบวดร้อนถึงที่เหมาะ ให้ปิดไฟ
- เสริฟใส่ถ้วย พร้อมกินได้
เทคนิควิธีการทำแกงบวดฟักทอง
- การเลือกกะทิ ควรเป็น กะทิคั้นสด ผสมกันในอัตราส่วน หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 3 ส่วน ใส่เกลือเพื่อช่วยตัดความมันของน้ำกะทิ ซึ่งการที่ไม่ชี้แนะให้ใช้กะทิเสร็จ ด้วยเหตุว่ารสรวมทั้งความหวานมันแบบธรรมชาติมันไม่เหมือนกัน
- การเลือกฟักทอง ให้เลือกฟักทองที่สดใหม่ ผิวฟักทองไม่สกปรก ขั้วฟักทองยังติดอยู่ เนื้อแน่น แข็ง
- สำหรับเพื่อการจัดเตรียมฟักทอง ให้ปลอกเปลือก ล้างให้สะอาด แล้วก็ นำไปต้มให้สุกก่อน เพื่อจะสามารถควบคุมความสุกของฟักทอง กับกะทิที่ไม่แตกมันได้
- ในการทำแกงบวด ให้แต่งรสของกะทิให้เสร็จก่อน ก็เลยจะใส่ฟักทองลงไป
- น้ำตาลสำหรับเอามาต้มกะทิ ใช้ น้ำตาลทรายแล้วก็น้ำตาลปี๊บ ผสมกัน จะได้การหวานที่กลมกล่อม
- เม็ดสาคู ก่อนเอามาต้มให้นำไปแช่น้ำก่อน แล้วก็ นำไปต้มต่างหาก จะก่อให้พวกเราสามารถควบคุมความสุกของสาคูได้
แหล่งที่มา.. mobi-expo.com
…

กล้วยบวชชี ของหวาน รายการอาหารกล้วย ต้มกะทิหวานๆกล้วยหอมๆขั้นตอนการทำขนมกล้วยบวชชี กล้วยๆสามารถทำรับประทานเองได้ เทคนิคกระบวนการทำ ขนมไทยโบราณ รายการอาหารกล้วย ใช้กล้วยประเภทใดทำกล้วยบวดชี
ส่วนประกอบสำหรับทำ กล้วยบวชชี
- กล้วยน้ำว้าสุก แต่ว่าไม่งอม 8 ลูก
- หางกะทิ 1 ถ้วย
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- เม็ดสาคู 1 ถ้วย
- น้ำตาล 1 ถ้วย
- เกลือ 1 ช้อนโต้ะ
วิธีการทำกล้วยบวชชี
- น้ำหัวกะทิ รวมทั้งหางน้ำกะทิลงไปต้ม ให้ร้อนแล้วเพิ่มเติม น้ำตาลแล้วก็เกลือลงไป
- นำสาคูที่แช่น้ำไว้แล้วโดยประมาณ 1 ชั่วโมงลงไปต้ม แล้วหั่นกล้วยเป็นชิ้นพอเพียงคำลงไปต้ม
- ต้มจนถึงเม็ดสาคูสุกและก็กล้วยสุก เสริฟใส่ถ้วยกิน
เทคนิควิธีการทำกล้วยบวชชี
วิธีการทำของหวาน เมนูนี้ หลานคนคงจะเคยทานกล้วยบวดชีที่ กล้วยฝาดอย่างมาก บางที่ก็กล้วยเละเหลือเกิน บางที่ก็เค็มมาก รวมทั้งหวานมาก ความอร่อยของกล้วยบวดชี อยู่ที่จุดใด ขนมกล้วยบวชชีที่อร่อยเป็น น้ำกะทิ จำเป็นต้อง หวานมันเค็ม พอดิบพอดี กล้วยจำเป็นต้องเนื้อแน่นไม่เละ รวมทั้งเนื้อกล้วยจะต้องหวานไม่ฝาด ฉะนั้น วิธีการทำขนมกล้วยบวชชี มีดังนี้
- การเลือกกะทิ ควรเป็น กะทิคั้นสด ผสมกันในอัตราส่วน หัวกะทิ 1 ส่วน หางกะทิ 3 ส่วน ใส่เกลือเพื่อช่วยตัดความมันของกะทิ ซึ่งการที่ไม่ชี้แนะให้ใช้กะทิเสร็จ เพราะรสแล้วก็ความหวานมันแบบธรรมชาติมันไม่เหมือนกัน
- การเลือกกล้วย ให้เลือกกล้วยที่กำลังจะสุก ออกเขียวปนเหลือง ถ้าหากใช้กล้วยดิบเกิน ก็ทำให้กล้วยเป็นชิ้นงาม แต่ว่ารสไม่หวานดังสมใจนึก แล้วก็รสจะฝาดมากยิ่งกว่า ไม่อร่อย ถ้าเลือกสุกเลย กล้วยก็จะหวาน แต่
- ว่าช่องทางที่กล้วยจะเหลวไม่เป็นชิ้นมีมากมาย
- ให้ แต่งรสของกะทิ ให้เสร้จก่อนจะใส่กล้วยลงไป
- ไม่ต้มกล้วยในกะทิที่ใช้ไฟร้อนเหลือเกิน เสนอแนะให้ใช้ไฟอ่อน ให้น้ำกะทิซึมขาดทุนกะทิ
- ทิ้ง กล้วยบวดชี ให้เย็นก่อน กะทิจะซึมขาดทุนกล้วย จะได้กล้วยบวดชีที่หวานมันอย่างสะใจ
แหล่งที่มา.. mobi-expo.com
…

ขนมข้าวเหนียวถั่วดำ ขนมหวานจากข้าวเหนียว วิธีการทำข้าวเหนียวถั่วดำ กล้วยๆสามารถทำรับประทานเองได้ ข้าวเหนียวทำอะไรกินได้บ้าง ถั่วดำทำอะไรกินดี ขนมไทยโบราณ ข้าวเหนียวถั่วดำ สอนทำขนมไทยโบราณสอนทำขนมไทย ข้าวเหนียวถั่วดำทำอย่างไร
ส่วนประกอบสำหรับทำ ขนมข้าวเหนียวถั่วดำ
- ถั่วดำ 1/2 กิโล
- กะทิ 1 ลิตร
- น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต้ะ
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต้ะ
- เกลือ 1 ช้อนโต้ะ
- ข้าวเหนียวมูน 1 กิโล ดู การทำข้าวเหนียวมูน
วิธีทำขนมข้าวเหนียวถั่วดำ
- นำถั่วดำแช่น้ำอุ่น 3 ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นพักไว้ก่อน
- ต้ม กะทิ กับ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลรู้ และก็ เกลือ พอส่วนผสมละลายแล้วใส่ ถั่วดำ ลงไปต้มให้สุก
- หลังจากนั้นพักให้ ถั่วดำ รวมทั้ง กะทิเย็น
- เสริฟ ถั่วดำ กะทิ ใส่ ข้าวเหนียวมูน ลงไป ข้าวเหนียวถัวดำ แบบง่ายๆ
เทคนิควิธีการทำขนมข้าวเหนียวถั่วดำ
- ถั่วดำ ให้คัดเลือกถั่วดำที่เสียออก โดยวิธีการเลือกถั่วทำที่เสียออก สามารถทได้โดย การแช่น้ำ ถั่วดำที่ลอยน้ำขึ้นมา แปลว่า เป็น ถั่วดำที่เสีย แม้เอามาทำของหวาน จะทำให้เสีรส
- การแช่ถั่วดำในน้ำ จะต้องแช่ถั่วดำ ในน้ำ 1 คืน ในอุณหภูมิปกติ ให้ถั่วดำอิ่มน้ำอย่างเต็มเปี่ยม ถ้าเกิดรีบร้อน สามารถแช่ลงไปภายในน้ำอุ่น ซึ่งจะก่อให้ใช้เวลา เพียงแค่ 3 ชั่วโมง
- การต้มถั่วดำ ให้ต้มในน้ำเดือด รวมทั้งหมั่นรอเอา ถั่วดำออกมาวิเคราะห์ความสุก ซึ่ง จำต้องตรวจดู เพราะว่า การแช่ถั่วดำ ในแต่ละครั้ง มีอุณหภูมิที่แตกต่าง การทดสอบ ลองชิม ถั่วดำ ก็เลยเป็น แนวทางที่ง่ายที่สุด
- กะทิ ที่ใช้สำหรับทำกะทิ สำหรับ ของหวานข้าวเหนียวถั่วดำ จำเป็นต้องคั้นน้ำกะทิใหม่ๆทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่แนะนำให้ใช้ กะทิกระป๋อง เนื่องด้วย มีความหอม และก็มันมากจนเกินความจำเป็น ไม่มีความกระเป๋านธรรมชาติ
- น้ำกะทิ ใส่ นมค้นจืด รวมทั้งนมค้นหวาน ลงไปด้วย จะเพิ่มรสความอร่อย ให้กับ ของหวานข้าวเหนียวถั่วดำ
- ข้าวเหนียว สำหรับ เอามาทำข้าวเนียวมูน นั้น ให้ใช้ ข้าวเนียวบดงู ของจังหวัดเชียงราย ซึ่ง เป็นข้าวเหนียวที่เม็ดงาม รวมทั้ง ให้ใช้ ข้าวเหนียวเก่า ข้าวเหนียวมูน จะเม็ดสวย ไม่เหลว
แหล่งที่มา.. mobi-expo.com
…

ทองหยิบ ขนมหวาน เมนูขนมเชื่อม วิธีการทำขนมทองหยิบ กล้วยๆสามารถทำรับประทานเองที่บ้านได้ ขนมไทยโบราณ ตระกลูทองคำ ที่ได้รับวัฒนธรรมมาจากโปรตุเกตุ สูตรขนมทองหยิบ และเทคนิควิธีการทำของหวานทองหยิบ กระบวนการทำไม่ยุ่งยาก ของหวาน เมนูไข่ อร่อยๆ
ส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทองหยิบ
- ไข่เป็ด 10 ฟอง โดยแยกเอาเฉพาะไข่แดง
- น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
- น้ำลายดอกไม้ 2 ถ้วย
วิธีการทำขนมทองหยิบ
- วิธีการทำน้ำลอยดอกมะลิ น้ำลอยดอกมะลิจะเริ่มจากการเตรียมน้ำที่สะอาด หลังจากนั้นนำดอกมะลิ หอมๆที่เป็นดอกไม้เด็ดแบบใหม่ๆนำลงไปลอยในน้ำที่สะอาด รวมทั้ง ทิ้งให้นำสะอาดหอมกลิ่นดอกมะลิ ก่อน ใช้เวลาสำหรับในการจัดแจงน้ำลอยดอกมะลิ เป็น 1 คืน
- เมื่อพวกเราได้น้ำลอยดอกไม้ รวมทั้ง นำน้ำลอยดอกมะลิ ไปต้มให้เดือด ใส่น้ำตาลลงไป บดให้น้ำตาลค้น เหนียว สามารถใส่ใบเตยลงไปได้ ในขณะที่บดน้ำเชื่อม ให้ไปจัดเตรียมไข่
- เริ่มทำของหวานทองหยิบ โดย นำไข่เป็ดที่ตระเตรียมไว้ เอามาตีให้แตกฟอง ขึ้นฟู ถ้าเกิดมีเครื่องช่วยตีไข่ จะช่วยสำหรับในการเบาแรงได้มาก ตีไข่แดงกระทั่งไข่แดงขึ้นฟู หลังจากนั้นพักไว้ก่อน
- เมื่อน้ำเชื่อมพอดีแล้ว ให้นำกระบวยตักไข่ให้เป็นลักษณะแผ่น ใส่ไข่ลงไป และก็นำไปต้มให้เป็นแผ่น เมื่อไข่สุกไข่จะเกาะตัวแล้วก็ เป็นแผ่น ลอยหลุดจากกระบวย พวกเราก็ทำเชื่อมมันให้ขาดทุน เมื่อไข่สุดถึงที่เหมาะ
- ให้นำแผ่นไข่ ลงไปจีบใส่ถ้วยพิมพ์ ที่จัดแจงเอาไว้ พักให้เย็นก็สามารถกินได้
เทคนิควิธีการทำขนมทองหยิบ
- น้ำลอยดอกมะลิ จะต้องใช้น้ำที่สะอาด ดอกมะลิจำเป็นต้องเด็ดยามค่ำคืน จะได้น้ำกลิ่นหอมดอกมะลิ เพิ่มเสนห์ให้กัขนม ที่มีอีกทั้งความหวาน แล้วก็ หอม
- สำหรับตอนที่ดอกมะลิขาด ก็ใช้ใบเตยแทน ความหอมของใบเตยสามารถตอบแทนกลิ่นหอมหวนของดอกมะลิได้ทองหยิบ ขนมไทยโบราณ จัดเป็นของหวานโบราณ ที่มีประวัติว่า มีการทำทีแรกในยุคกรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายมหาราช ซึ่งเป็นขนม
- ไทยโบราณ ที่ได้รับวัฒนธรรมมาจากประเทศโปรตุเกส เพราะเหตุว่ามีของหวานโปรเหม็นตุเกต ชื่อ trouxas das Caldas ซึ่งออกเสียง ว่า โตรชัชดัชกัลดัช มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
…

ข้าวเหนียวสังขยา ข้าวเหนียวมูน วิธีการทำข้าวเหนียวมูน สูตรข้าวเหนียวสังขยา สอนทำข้าวเหนียวสังขยา สังขยาทำยังไง ขนมไทยโบราณ เมนูข้าวเหนียว สังขยาอร่อยๆทำยังไง
ส่วนประกอบสำหรับทำข้าวเหนียวสังขยา
- ข้าวเหนียวมูน 1 กิโล ดู วิธีการทำข้าวเหนียวมูน
- ไข่เป็ด 3 ฟอง
- น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต้ะ
- กะทิ 1/2 ลิตร
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีการทำข้าวเหนียวสังขยา
- นำ ไข่เป็ด ตอกผสมกับ กะทิ น้ำตาล รวมทั้ง เกลือ ผสมให้ส่วนประกอบถูกกัน
- แล้วนำไข่ไปนึ่งให้สุก จะได้ สังขยา สำหรับทานกับ ข้าวเหนียวมูน หลังจากนั้นก็ทำ ข้าวเหนียวมูน โดย ดู วิธีการทำข้าวเหนียวมูน
- นำ ข้าวเหนียวมูน กับ สังขยา มาทานด้วยกัน ราด หัวกะทิ เพื่อเพิ่มความมันของ ขนมไทย
เทคนิค วิธีการทำข้าวเหนียวสังขยา
- ข้าวเหนียวมูน ให้เลือกใช้ ข้าวเหนียวเคี้ยวงู ของจังหวัดเชียงราย ข้าวเหนียวเคี้ยวงูของจังหวัดเชียงราย เป็น ข้าวเหนียวที่เม็ดงาม นิยมเอามาทำข้าวเหนียวมูน โดยให้เลือกใช้ ข้าวเหนียวเก่า เวลานึ่งขึ้นมา เมนูข้าวเหนียว จะไม่เหลว
- กะทิ สำหรับ เอามา มูนข้าวเหนียว นั้น ใช้ หัวกะทิสด แล้วก็ ต้ม โดยการต้มอย่าให้ กะทิแตกมัน และก็แต่งรสด้วย น้ำตาลปี๊บ และก็ เกลือ เอามามูน จะได้ข้าวเหนียวที่หวาน มัน กลมกล่อมละมุนละไม
- การนึ่งข้าวเหนียว นั้น ให้นึ่งข้าวเหนียว สุก 75% รวมทั้งเอามามูน โดยผสมกับน้ำกะทิ ตอนที่ข้าวเหนียว ร้อนๆเลย จะมีผลให้ ข้าวเหนียวดูดน้ำกะทิ อย่างพอดิบพอดี
- ไข่ สำหรับ เอามาทำ สังขาย ให้ใช้ ไข่เป็ด เพราะเหตุว่า ไข่เป็ด ไข่แดงสีงาม เนื้อไข่มากมาย เหมาะแก่การนำมาทำ สังขยา
ข้าวเหนียวสังขยา เป็น ขนมไทยโบราณ แบบโบราณ ขนมไทยโบราณ รายการอาหารข้าวเหนียวมูน ให้กินในจำนวน ที่สมควร เพราะว่า มีส่วนผสม ที่ทำให้ กำเนิดไขมัน สะสมภายในร่างกายมากมาย ขั้นตอนการทำข้าวเหนียวสังขยา ข้าวเหนียวสังขยาอร่อยๆทำยังไง ข้าวเหนียวทำอะไรกินได้บ้าง ขนมไทยโบราณ รายการอาหารข้าวเหนียว
…

ข้าวเหนียวกับถั่วดำ ขนมหวานจากข้าวเหนียว วิธีการทำข้าวเหนียวถั่วดำ กล้วยๆสามารถทำรับประทานเองได้ ข้าวเหนียวทำอะไรกินได้บ้าง ถั่วดำทำอะไรรับประทานดี ขนมไทยโบราณ ข้าวเหนียวถั่วดำ สอนทำขนมไทยโบราณสอนทำขนมไทย ข้าวเหนียวถั่วดำทำยังไง
ส่วนประกอบสำหรับทำ ข้าวเหนียวถั่วดำ
- ถั่วดำ 1/2 กิโล
- กะทิ 1 ลิตร
- น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต้ะ
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต้ะ
- เกลือ 1 ช้อนโต้ะ
- ข้าวเหนียวมูน 1 กิโล ดู การทำข้าวเหนียวมูน
วิธีการทำข้าวเหนียวถั่วดำ
- นำถั่วดำแช่น้ำอุ่น 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นพักไว้ก่อน
- ต้ม กะทิ กับ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลรู้ รวมทั้ง เกลือ พอส่วนประกอบละลายแล้วใส่ ถั่วดำ ลงไปต้มให้สุก
- แล้วพักให้ ถั่วดำ แล้วก็ กะทิเย็น
- เสริฟ ถั่วดำ กะทิ ใส่ ข้าวเหนียวมูน ลงไป ข้าวเหนียวถัวดำ แบบง่ายๆ
เทคนิควิธีการทำข้าวเหนียวถั่วดำ
- ถั่วดำ ให้คัดเลือกถั่วดำที่เสียออก โดยวิธีการเลือกถั่วทำที่เสียออก สามารถทได้โดย การแช่น้ำ ถั่วดำที่ลอยน้ำขึ้นมา มีความหมายว่า เป็น ถั่วดำที่เสีย ถ้าหากเอามาทำของหวาน จะก่อให้เสีรส
- การแช่ถั่วดำในน้ำ จำต้องแช่ถั่วดำ ในน้ำ 1 คืน ในอุณหภูมิปกติ ให้ถั่วดำอิ่มน้ำอย่างมาก ถ้าหากรีบเร่ง สามารถแช่ลงไปภายในน้ำอุ่น ซึ่งจะมีผลให้ใช้เวลา เพียงแค่ 3 ชั่วโมง
- การต้มถั่วดำ ให้ต้มในน้ำเดือด แล้วก็หมั่นรอเอา ถั่วดำออกมาตรวจสอบความสุก ซึ่ง จะต้องวิเคราะห์ เพราะ การแช่ถั่วดำ ในแต่ละครั้ง มีอุณหภูมิที่ไม่เหมือนกัน การทดสอบ ลองชิม ถั่วดำ ก็เลยเป็น แนวทางที่ง่ายที่สุด
กะทิ ที่ใช้เพื่อทำน้ำกะทิ สำหรับ ของหวานข้าวเหนียวถั่วดำ จะต้องคั้นกะทิใหม่ๆแต่ละวัน ไม่เสนอแนะให้ใช้ น้ำกะทิกระป๋อง เพราะ มีความหอม รวมทั้งมันมากจนเกินไป ไม่มีความกระเป๋านธรรมชาติ
- น้ำกะทิ ใส่ นมค้นจืดชืด รวมทั้งนมค้นหวาน ลงไปด้วย จะเพิ่มรสความอร่อย ให้กับ ของหวานข้าวเหนียวถั่วดำ
- ข้าวเหนียว สำหรับ เอามาทำข้าวเนียวมูน นั้น ให้ใช้ ข้าวเนียวเคี้ยวงู ของจังหวัดเชียงราย ซึ่ง เป็นข้าวเหนียวที่เม็ดงาม รวมทั้ง ให้ใช้ ข้าวเหนียวเก่า ข้าวเหนียวมูน จะเม็ดสวย ไม่เละ
…
ความเห็นล่าสุด